ข้อเเนะนำฉบับปรับปรุงของ ASHRAE เกี่ยวกับการควบคุมความชื้นในศูนย์ข้อมูล

อุปกรณ์ในศูนย์ข้อมูลผลิตและปล่อยความร้อนคงที่ในอากาศ หากไม่มีวิธีการระบายความร้อนและความชื้นที่เหมาะสม เซิร์ฟเวอร์จะต้องระบายความร้อนที่้เกินกำหนดออกจากห้อง มิฉะนั้นอาจได้รับความเสียหายจากการคายประจุไฟฟ้าสถิต (ESD)

สำหรับศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลก ASHRAE (สมาคมเครื่องทำความร้อนแห่งอเมริกา, เครื่องทำความเย็นและเครื่องปรับอากาศ) แนะนำระดับความชื้นขั้นต่ำ 40% RH (ความชื้นสัมพัทธ์) อย่างไรก็ตามเซิร์ฟเวอร์ได้มีการพัฒนาเพื่อลดความเสี่ยงของความเสียหายจาก ESD ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงข้อเเนะนำของ ASHRAE ใน ปี พ.ศ 2551 ระดับความชื้นที่แนะนำจะลดลงและวัดเป็นจุดน้ำค้างแทนความชื้นสัมพัทธ์เนื่องจากมีการศึกษาชี้ว่าความชื้นสัมพัทธ์มีผลกระทบต่อ ESD ได้มากกว่า  ขีดจำกัดล่างของระดับความชื้นที่แนะนำใหม่คือจากอุณหภูมิกระเปาะแห้ง 18 ° C และ 5.5 ° C อุณหภูมิจุดน้ำค้าง  ถึง 27 ° C อุณหภูมิกระเปาะแห้งและ 5.5 ° C อุณหภูมิจุดน้ำค้าง กล่าวอีกนัยหนึ่ง RH ที่แนะนำจะแตกต่างกันไปจาก 25% ถึง 45%

โดยประมาณ โดยปกติเพื่อจัดการกับ ESD และเก็บข้อมูลไว้ที่อุณหภูมิที่แนะนำและความชื้นในอากาศที่ค่อนข้างสูง เครื่องทำความชื้นไอน้ำอิเล็กโทรดจะถูกรวมอยู่ในหน่วย CRAC (Computer Room Air Conditioning) อย่างไรก็ตามความชื้นประเภทนี้มีค่าใช้จ่ายโดยรวมที่สูงในการใช้พลังงานและมีการบำรุงรักษาค่อนข้างยาก ดังนั้นเครื่องทำความชื้นแบบอะเดียแบติกมักจะใช้ควบคู่กับระบบระบายความร้อนด้วยอากาศเพื่อให้ลดค่าใช้จ่ายเพื่อให้มีปริมาณอากาศจำนวนมากไหลผ่านระบบระบายอากาศของศูนย์ข้อมูลหรือเพิ่มความสามารถในการทำความเย็นด้วยการทำให้เย็นลงแบบระเหย

กรณีศึกษาที่ดีดำเนินการโดยศูนย์ข้อมูลฟูจิตสึทางตอนเหนือของลอนดอน พวกเขาใช้เครื่องพ่นความชื้นพลังงานต่ำเพื่ออุ่นความเย็นที่เข้าให้เปลี่ยนเป็นอากาศบริสุทธิ์ให้อุณหภูมิที่ 30°C ด้วยความร้อนที่มาจากศูนย์ข้อมูลกระบวน การทำความร้อนนี้ใช้อากาศบริสุทธิ์จากภายนอกมากกว่าใช้จาก CRAC เพราะมีการขับเคลื่อนด้วยคอมเพรสเซอร์ที่อนุญาตให้ดูดซับความชื้นได้มากขึ้นและหลังจากความชื้นกลับสู่ห้องเก็บอุณหภูมิที่ 17 ° C หรือที่ 50% ± 10% RH นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายพลังงานประมาณ 35,000 ปอนด์ต่อปี (เมื่อเทียบกับเครื่องทำความชื้นเเบบไอน้ำ)

ในสถานที่ที่เย็นกว่า  การทำความเย็นแบบระเหย (โดยตรง) ชนิดนี้สามารถรักษาสภาพแวดล้อมของศูนย์ข้อมูลให้อยู่ในระดับที่แนะนำได้โดยประมาณ 70% ของปี

ในสภาพอากาศที่เย็นสบายซึ่งการระบายความร้อนด้วยอากาศเพียงอย่างเดียวไม่สามารถตอบสนองเงื่อนไขภายในที่ต้องการได้ตลอดทั้งปี  สิ่งนี้จะเพิ่มหน้าต่างการทำงานของระบบระบายอากาศโดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องทำความเย็นแบบ DX (การขยายโดยตรง)

ประสิทธิภาพของศูนย์ข้อมูลถูกวัดใน Power Usage Effectiveness (PUE) ซึ่งเป็นอัตราส่วนของพลังงานที่เซิร์ฟเวอร์ใช้เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้พลังงานของบริการอื่น ๆ เช่น อุปกรณ์ทำความเย็นไฟ ฯลฯ โดยหลักการแล้ว PUE ควรใกล้เคียงกับ 1.0 มากที่สุด การใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในศูนย์ข้อมูลไม่เพียง แต่ให้การประหยัดพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น แต่ยังช่วยลด PUE ในเดือนที่อากาศอบอุ่นเพราะอากาศเย็นเพียงอย่างเดียวไม่สามารถตอบสนองความต้องการของศูนย์ข้อมูลได้ นอกจากนี้พวกเขายังสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีต่อสุขภาพและทำให้เป็นที่น่าพอใจสำหรับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในศูนย์ข้อมูล

แหล่งที่มา
https://www.hygromatik.com/en/data-centre https://www.condair.co.uk/knowledge-hub/data-centre-humidification https://www.condair-group.com/industrial-commercial-humidification/data-center-humidification-evaporative-cooling-humidifier

ความรู้ที่น่าสนใจอื่นๆ

• ข้อเเนะนำฉบับปรับปรุงของ ASHRAE เกี่ยวกับการควบคุมความชื้นในศูนย์ข้อมูล
  
• ระบบ HVAC เชิงพาณิชย์ประเภทต่างๆ
  
• เครื่องปรับความชื้นด้วยไอน้ำเย็นกับไอน้ำอุ่น
  
• เครื่องปรับความชื้นด้วยไอน้ำเย็นกับไอน้ำอุ่น
  
• เครื่องปรับความชื้นด้วยไอน้ำเย็นกับไอน้ำอุ่น
  
• เครื่องปรับความชื้นด้วยไอน้ำเย็นกับไอน้ำอุ่น
  
• เครื่องปรับความชื้นด้วยไอน้ำเย็นกับไอน้ำอุ่น